ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา คนประเทศอินเดียกำลังให้ความสนใจกับสิ่งที่ถูกเรียกว่า”การฆาตกรรมที่เหี้ยมโหดอำมหิตที่สุด”
ตำรวจในกรุงนิวเดลี ได้จับตัวนายอาฟทับ ปูนาวาลา ชายหนุ่มคนหนึ่ง หลังถูกกล่าวหาว่า การสังหารแฟนสาวหั่นศพแช่ตู้เย็นที่อยู่อาศัยอยู่ร่วมกันนาน 3 ปี พวกเขาใส่ร้ายว่า นายปูนาวาลา การฆาตกรรมนางสาวเลื่อมใส วอลการ์ วัย 27 ปีการฆาตกรรมหั่นศพ ในเดือน เดือนพฤษภาคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาหั่นศพแช่ตู้เย็น และได้หั่นศพของเธอเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหลายสิบชิ้น เก็บไว้ภายในตู้เย็นที่บ้านของเขา แล้วหลังจากนั้นเขาได้นำส่วนประกอบของศพไปทิ้งดังที่ต่างๆในเมืองทีละชิ้นๆในตอน 2-3 เดือนที่ผ่านมา ในเวลานี้นายปูนาวาลา ถูกควบคุมตัวอยู่ และยังมิได้แสดงความเห็นต่อมหาชน แม้กระนั้นเมื่อวันอังคาร (22 เดือนพฤษภาคม) เขากล่าวต่อศาลว่า “ข้อมูลจู่โจมผมที่เผยแพร่อยู่ในขณะนี้ผิดจะต้อง” รวมทั้งเขา “กำลังร่วมมือกับการสอบสวนของตำรวจอย่างเต็มที่” การตายของเลื่อมใสแปลงเป็นที่พึงพอใจ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภายหลังบิดาของเธอแจ้งความว่าลูกหญิงล่องหนไป
นับจากนั้น รายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับผู้ถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนร้ายรายนี้ ก็แปลงเป็นข่าวพาดหัวใหญ่แต่ละวันในประเทศอินเดีย โดยตำรวจที่ไม่เปิดเผยชื่อได้ให้ข้อมูลหลายชนิดที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบแก่บรรดาฆาตกรรมหั่นศพทิ้งแม่น้ำนักข่าวท้องถิ่น อาชญากรรมนี้ถูกขนานนามว่า “การฆ่าตู้แช่เย็น” แล้วก็เว็บข่าวสารต่างๆได้สนใจเป็นอย่างมากการฆาตกรรมหั่นศพแช่ตู้เย็น มีการรายงานสดเกี่ยวกับการสอบสวนทุกๆ2-3 นาที สร้างความแค้นให้ผู้คน จนกระทั่งออกไปประท้วงบนถนนและก็เผาหุ่นของนายปูนาวาลา เรียกร้องให้มีการลงอาญาเขาอย่างเข้มงวด ทนายความ นักขยับเขยื้อน รวมทั้งอดีตตำรวจหลายนาย แสดงความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเกี่ยวกับการรายงานข่าวนี้อย่างเข้มข้น วิกรม สิงห์ อดีตกาลผู้บังคับบัญชาตำรวจเมืองอุตตรประเทศ เรียกการรายงานข่าวนี้ว่า “ไม่มีความรับผิดชอบอย่างมาก” “คำพรรณนาที่ละเอียดทุกแง่มุมได้ผลเสียต่อการสืบสวน และไม่ยกย่องต่อผู้เสียชีวิต
เขากล่าวกับสถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซี การยึดติดรายงานเช่นนี้ ยังเป็นการยากที่จะแบ่งแยกเนื้อหาที่มีคุณภาพ รายงานจากหลายที่ปราศจากความสอดคล้องกัน และความจริงทางคดี รวมถึงคู่ชีวิตนี้เจอกันได้ยังไง ความเชื่อมโยง หากว่านางสาววอลการ์และก็นายปูนาวาลาฆาตกรรมหั่นศพใ่หีบเหล็ก จะอาศัยอยู่ด้วยในเขตเดียวกันในนครมุมไบ แม้กระนั้นตำรวจกล่าวว่าฆาตกรรมหั่นศพทิ้งแม่น้ำ พวกเขาพบกันในบัมเบิล (Bumble) แอปพลิเคชันหาคู่ แม้กระนั้นสำหรับในการแจ้งเหตุเกี่ยวกับการล่องหนไปของคุณกับตำรวจในนครมุมไบ ตอนต้นเดือน เดือนตุลาคม พ่อของเธอกล่าวว่า พวกเขาเจอกันในปี 2018 ที่ศูนย์รับโทรศัพท์แห่งหนึ่ง ซึ่งพวกเขาทำงานด้วยกัน นางสาววอลการ์มีความสัมพันธ์เคร่งเคลียดกับทางครอบครัว เพราะเหตุว่าพวกเขาปฏิเสธความเกี่ยวพันของคุณกับนายปูนาวาลา สำหรับเพื่อการแจ้งเหตุคราวนั้น พ่อของคุณบอกว่า ได้บากบั่นโน้มนาวไม่ให้ลูกผู้หญิงย้ายเข้าไปอยู่กับนายปูนาวาลา เพราะเหตุว่า “เราเป็นฮินดูแล้วก็อาฟทับเป็น
มุสลิม แล้วพวกเราก็ไม่สมรสกับคนภายนอกวรรณะหรือศาสนา” แต่ว่าทั้งสองก็ได้เริ่มดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันในปี 2019 และย้ายมาอยู่ในกรุงนิวเดลีในปีนี้ โดยได้เช่าอะพาร์ตเมนต์ในบริเวณ Chhatarpur Pahadiเพื่อนๆของทั้งคู่ แล้วก็ตำรวจให้ข้อมูลว่า ทั้งสองคนทะเลาะกันหลายครั้ง และก็กล่าวหาว่า นายปูนาวาลารังแกเธอ อันกิต เชาฮาน ตำรวจอาวุโส กล่าวกับ ฆาตกรรมหั่นศพใส่กระเป๋าเอเอ็นไอ (ANI) ว่า เชื่อถือเริ่มบีบคั้นนายปูนาวาลาให้แต่งงานกับคุณการสังหารหั่นศพใ่หีบเหล็ก และก็ “เมื่อ 18 พฤษภาคม เขาก็อารมณ์เสียและบีบคอคุณเสียชีวิต” บิดาของนางสาววอลการ์ติดต่อตำรวจนครมุมไบ ข้างหลังได้รับแจ้งจากเพื่อนฝูงๆของลูกสาวว่ามิได้ยินข่าวคราวจากคุณมา 2-3 เดือนแล้ว รวมทั้งโทรศัพท์ไปก็ปิดเครื่อง เมื่อวันพุธ (23 พ.ย.) ได้ปรากฏเนื้อความที่เขียนด้วยลายมือ โดยตำรวจกรุงนิวเดลี
กล่าวว่า เขียนโดยนางสาววอลการ์ในปี 2020 ซึ่งเธอแจ้งต่อตำรวจมุมไบว่า เขาทำร้ายคุณ และ “ขู่จะฆ่าคุณแล้วก็ตัดเธอเป็นชิ้นๆ” ซึ่งตำรวจบอกว่า ได้เกิดเหตุการณ์ตรงอย่างนั้นในอีก 2 ปีต่อมา ภายหลังมีการวิจารณ์ ตำรวจมุมไบบอกว่า ได้มีการสอบสวนคดีนั้นแล้ว แม้กระนั้น “คดีถูกปิดลง ภายหลังที่คุณเขียนคำพูดกล่าวให้การว่าประเด็นนั้นได้รับการปรับแต่งและไม่มีข้อพิพาทกันแล้ว”เมื่อวันอังคาร (22 พฤศจิกายน) ในระหว่างที่ศาลถามนายปูนาวาลาว่าฆาตกรรมหั่นศพใส่กระเป๋า รู้ตัวฆาตกรรมหั่นศพแล่เนื้อต้มซุปว่าได้ทำอะไรลงไปหรือไม่ เขาตอบว่า “ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นจากความหุนหันพลันแล่น และไม่ได้ไตร่ตรอง”คนนิดหน่อยแปลความคำให้การของเขาว่า เป็นคำสารภาพ แต่อภินาช กุมาร ทนายความของเขา ไม่ยอมรับว่า นายปูนาวาลาไม่ได้ยอมรับสารภาพว่าการสังหาร และบอกว่าลูกความของเขา “กำลังร่วมมือกับการสอบสวนอย่างเต็มเปี่ยม
ไม่นานหลังจากโดนจับตัวตำรวจบอกว่านายปูนาวาลาได้ยอมรับสารภาพว่า
เขาก่ออาชญากรรม รวมทั้งได้ให้เค้าเงื่อนบางสิ่งแก่ตำรวจเพื่อหาหลักฐานต่อไป ตำรวจได้บุกค้นอะพาร์ตเมนต์ของเขาและก็นำตัวเขาไปยังป่าที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งตำรวจบอกว่า “เขาได้ทิ้งชิ้นส่วนศพไว้หลายชิ้น”ตำรวจกล่าวว่า พวกเขาเก็บกระดูกและก็องค์ประกอบศพมาได้หลายชิ้นการฆ่าสังหารหั่นศพแล่เนื้อต้มซุป ซึ่งได้ส่งไปวิเคราะห์ทางด้านนิติเวชแล้ว รวมทั้งจะนำไปเทียบกับตัวอย่างดีเอ็นเอของพ่อของเชื่อถือเพื่อวิเคราะห์ว่า ชิ้นส่วนพวกนั้นมาจากศพของคุณไหม ตำรวจได้นำเครื่องไม้เครื่องมือตรวจโลหะไปปูพรมตรวจค้นมีดที่ใช้หั่นศพ ในป่าในเกอร์กาวน์ เฉลียงกรุงนิวเดลี รวมทั้งหลังจากที่นักประดาน้ำเจอกระดูกเล็กน้อยจากแอ่งน้ำแห่งหนึ่งในเขตไมดาน การ์ฮี ของกรุงนิวเดลี ก็ได้มีการระบายน้ำออกจากบ่อ เพื่อหาหลักฐานเสริมเติม เมื่อวันพฤหัสบดี (24 พ.ย.) ผู้ถูกป้ายความผิดได้เข้าเครื่องจับเท็จ ต่อจากนั้นคาดว่า ได้มีการนำตัวเขาไปเข้ารับการทดลองท้องนาร์วัว-อะนาไลซิส (narco-analysis) ซึ่งมีการฉีดยาที่เรียกว่า “เซรั่มข้อเท็จจริง” ให้กับผู้ที่เข้ารับการทดสอบนี้ ก่อนที่จะถามคำถามพวกเขา แม้วิธีนี้จะไม่ได้รับการยินยอมรับในชั้นศาล แม้กระนั้นตุลาการได้สั่งให้มีการทดลองนี้ ภายหลังที่ทางตำรวจกล่าวว่า นายปูนาวาลาทำให้พวกเขาเข้าใจผิดด้วยการให้การที่ขัดแย้งกันข่าวฆาตกรรม